มีเรื่องเกี่ยวกับพระกรรมฐานรูปหนึ่ง ซึ่งจะว่าเป็นเรื่องตลก ก็น่าตลกอยู่ แต่คงต้องเรียกว่า "ตลกร้าย"
เรื่องนี้แม้เกิดเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว แต่ก็เป็นอุทาหรณ์ได้ในทุกยุคทุกสมัย ว่า "การแสดงธรรมย่อมมีความเสี่ยง"
ครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านปฏิบัติและดูแลสำนักสงฆ์ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกลความเจริญในเมือง การสัญจรจากสำนักสงฆ์แห่งนี้ ต้องเดินทางไปบนถนนลูกรังเป็นระยะทางไกล ๆ
อย่างไรก็ดี ในบรรดาชาวบ้านที่ค่อนข้างยากจน ก็มีผู้นำชุมชนคนหนึ่งค่อนข้างมีฐานะสักหน่อย และมีรถยนต์ส่วนตัว เจ้าตัวก็เป็นผู้มีศรัทธาในตัวพระอาจารย์รูปนี้ โดยได้ปวารณาว่าหากท่านประสงค์จะเข้าไปในเมืองหรือไปทำธุระที่ใด เขาก็อาสาที่จะขับรถพาท่านไป
อยู่มาวันหนึ่ง พระอาจารย์รูปนี้ก็มีธุระที่จะต้องเข้าเมือง จึงได้เอ่ยปากบอกโยมที่ได้ปวารณาไว้ โยมผู้นี้ก็ไปจัดเตรียมยานพาหนะด้วยความเต็มใจ และด้วยความที่อยากให้ภรรยาสุดที่รักได้มีโอกาสฟังธรรมของพระอาจารย์ในช่วงระหว่างการเดินทางเผื่อจะได้เป็นผู้มีศรัทธาในพระศาสนา จึงได้ชวนภรรยาขึ้นรถไปด้วย
พอพระอาจารย์และโยมสามีภรรยาคู่นี้เดินทางไปได้ระยะหนึ่ง ตัวสามีก็เอ่ยปากขอให้พระอาจารย์ช่วยแสดงธรรม พระอาจารย์ก็ลังเลเนื่องจากเห็นว่าอาจไม่เหมะสม เพราะทุกคนกำลังอยู่ระหว่างเดินทาง ต้องใช้สมาธิดูถนนหนทาง แต่เมื่อโยมผู้ชายคะยั้นคะยอ ท่านก็เลยต้องสนองศรัทธา
ด้วยความที่พระอาจารย์เป็นผู้ชำนาญในการพิจารณาอสุภกรรมฐาน ดังนั้น ท่านจึงแสดงธรรมไปตามความถนัดของท่าน คือ เรื่องการพิจารณาอสุภกรรมฐาน ฝ่ายหญิงสาวภรรยาของโยมที่กำลังขับรถก็แสดงความอึดอัดมากขึ้น ๆ เป็นลำดับ เพราะเธอผู้นี้ แม้จะอาศัยอยู่ในชนบท แต่ก็เป็นคนชอบแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่เสมอ จึงไม่ชอบใจที่จะได้ยินได้ฟังเรื่องของความไม่สวยไม่งาม
สุดท้าย เธอได้ตะโกนออกมาว่า "นิมนต์ลงจากรถไปเลยเดี๋ยวนี้ ลงไปเลยนะ"
ฝ่ายสามีผู้กำลังขับรถอยู่ก็ตกใจ แต่ด้วยความที่เป็นคนกลัวภรรยา จึงหยุดรถแล้วนิมนต์ให้พระอาจารย์ลงจากรถในระหว่างทางนั้นเอง ปล่อยให้พระอาจารย์ต้องเดินธุดงค์เข้าเมืองโดยที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า
เรื่องนี้ จะให้แง่คิดพิจารณาอย่างไรบ้างก็สุดแท้แต่ทัศนะของแต่ละท่าน แต่ที่แน่ ๆ แง่คิดประการหนึ่งก็คือ "การแสดงธรรมย่อมมีความเสี่ยง"
...พิจารณา มหาพิจารณา |